
นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่และแถลงนโยบายรัฐบาล วันนี้ (24 ก.ย. 68) เวลา 18.51 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง จำนวน 35 คน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
พระราชดำรัส เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
ขอให้ท่านนายกฯและคณะรัฐมนตรี มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความมานะบากบั่น และประสบความสำเร็จอันเป็นมงคลที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน และขอให้มีสติปํญญาที่จะเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้เป็นไปได้ด้วยดี ขอให้มีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน
ต่อมาเวลา 19.15 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งสรุปสาระสำคัญบางส่วน อาทิเช่น

เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 300/2568 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 300/2568 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง
ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2568 และพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งรัฐมนตรี ตามประกาศ ลงวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2568 นั้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 48 และมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
ส่วนที่ 1 คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
1. ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทน ตามลำดับ ดังนี้
(1) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
(2) นายโสภณ ซารัมย์
(3) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ
(4) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
(5) ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า
(6) นายสุชาติ ชมกลิ่น
2. ในระหว่างการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนข้างต้น จะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน
ส่วนที่ 2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่งไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ ดังนี้
ลำดับที่ | รองนายกรัฐมนตรี | รองนายกรัฐมนตรีที่ปฏิบัติราชการแทนกันตามลำดับ |
1 | นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ | 1. นายโสภณ ซารัมย์ |
2. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ | ||
2 | นายโสภณ ซารัมย์ | 1. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ |
2. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ | ||
3 | นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ | 1. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ |
2. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า | ||
4 | นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ | 1. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า |
2. นายสุชาติ ชมกลิ่น | ||
5 | ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า | 1. นายสุชาติ ชมกลิ่น |
2. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ | ||
6 | นายสุชาติ ชมกลิ่น | 1. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ |
2. นายโสภณ ซารัมย์ |
ส่วนที่ 3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ในกรณีที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่งไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้
ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ ดังนี้
ลำดับที่ | รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี | รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติราชการแทนกันตามลำดับ |
---|---|---|
1 | นายภราดร ปริศนานันทกุล | 1. นางสาวศุภมาส อิศรภักดี |
2. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ | ||
2 | นางสาวศุภมาส อิศรภักดี | 1. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ |
2. นายสันติ ปิยะทัต | ||
3 | นายนภินทร ศรีสรรพางค์ | 1. นายสันติ ปิยะทัต |
2. นายภราดร ปริศนานันทกุล | ||
4 | นายสันติ ปิยะทัต | 1. นายภราดร ปริศนานันทกุล |
2. นางสาวศุภมาส อิศรภักดี |
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 301/2568 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 302 /2568 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 303/2568 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค
อนึ่ง ทั้ง 4 คำสั่งที่นายกรัฐมนตรี ต้องลงนามเป็นลำดับแรกนี้ ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เป็นกระบวนการทางการบริหารราชการแผ่นดินที่เป็นทั้งการแบ่งงานและการมอบหมายการสั่งงานและมอบอำนาจของนายกฯ แก่ผู้รับมอบ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการในการบริหารราชการแผ่นดินใน ครม.ชุดนี้ภายหลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง จากนั้นจะได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาต่อไป


















เนื้อหาข่าวที่เกี่ยวข้อง :